Kao Luang
30-31 Dec 2016
เส้นทางเดินเขาที่ 3 ของผมครั้งนี้คืออุทยานแห่งชาติรามคำแหง หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่าเขาหลวง หลังจากที่ไป ภูสอยดาว และ ดอยหลวงเชียงดาว มาแล้วเนื่องจากผมเป็นคนสุโขทัย ทุก ๆ ปีใหม่จะกลับบ้านเกิดเพื่อฉลองปีใหม่กับที่บ้านเสมอ แต่การกลับบ้านครั้งนี้อยากขึ้นเขาหลวง จึงชวนเพื่อน ๆ สุโขทัยนี่แล่ะ ชวนเมื่อตอนคริสต์มาส มีเวลาเตรียมตัวกันแค่อาทิตย์เดียว และแล้วก็ได้ขึ้นสมใจ นึกว่าปี 2016 จะไม่ได้เดินป่าขึ้นเขาซะแล้ว มาขึ้นตอน 2 วันสุดท้ายของปีกันเลยทีเดียวทำไมต้องเขาหลวง?
จริง ๆ แล้ว เด็กสุโขทัยมักจะได้ขึ้นเขาหลวงตั้งแต่เด็ก ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น สมัยมัธยมต้นเวลาเข้าค่ายลูกเสือ ทางโรงเรียนจะให้ขึ้นเขาหลวงจนถึงยอดแล้วก็ลงมาเลยภายในวันเดียว #ดูไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะการขึ้นเขาครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการรำลึกความทรงจำในวัยเด็ก ที่เราเคยพิชิตยอดเขาหลวง แต่ตอนนั้นตัวเราเองยังไม่มีอุปกรณ์ไว้ถ่ายภาพเหล่านั้นเก็บไว้เป็นความทรงจำ ตอนนี้เรามีแล้ว จะช้าอยู่ใย ลุยกันเลย! 😀First day at Kao Luang
30-31 Dec 2016
เรามาแบบไม่เร่งรีบ เนื่องจากเป็นคนท้องถิ่น ตื่นเช้าปกติแวะซื้อเสบียงในตัวเมืองให้เรียบร้อย แล้วออกเดินทางไปอุทยานฯ ประมาณ 10 โมงถึงปุ๊บก็เห็นลูกหาบนั่งรออยู่สนามหญ้าอย่างพร้อมเพรียง ราวกับนัดกันว่า พวกผมจะมากันเวลานี้ก็ไม่รอช้าครับ วางสัมภาระต่าง ๆ ที่จะนำขึ้นไปให้ลูกหาบเลย ที่นี่ลูกหาบคิดกิโลกรัมละ 25 บาท ครับ จะมีตราชั่งที่ด้านบน ไปชั่งและจ่ายเงินเมื่อถึงยอดเมื่อพร้อมแล้ว เวลาประมาณเที่ยงตรง เราก็เตรียมออกเดินทางขึ้นเขาหลวงกัน เย่!~จุดแรกที่คนขึ้นเขาหลวงมักจะถ่ายรูปกันคือที่นี่เลย ท่อนไม้ขนาดใหญ่ที่วางเด่นในระหว่างทางไม่กี่ร้อยเมตรจากจุดเริ่มต้นระยะเวลาการเดินขึ้นเขาหลวงส่วนใหญ่จะเฉลี่ยอยู่ที่ 3-4 ชั่วโมง แล้วแต่คน ซึ่งตอนนี้เราเดินมาได้ประมาณครึ่งทางละ ก็ชั่วโมงกว่าพอดี พักที่จุดชมวิวครับ เพื่อกินข้าวเหนียวหมูปิ้งที่เตรียมมาทางขึ้นเขาหลวงระยะทางทั้งหมดจะประมาณ 3.5 กม. แต่ใช้เวลาถึง 3-4 ชั่วโมง เพราะทางจะชันแทบตลอดเวลา จะค่อนข้างเหนื่อยหน่อย เราต้องพักบ่อย ๆ ครับ มีทางราบน้อยมาก ๆ และฝุ่นจะเยอะมาก ๆ เวลาเดินขึ้นที ฝุ่นกระจายเลยครับ แต่ถ้ามาช่วงฤดูฝนก็น่าจะดีหน่อย พื้นคงจะชื้นและเปียกกว่านี้ ฝุ่นก็น่าจะน้อยลงทางอุทยานก็ค่อนข้างอำนวยความสะดวกให้เราดีมาก เพราะได้ทำทางเดินเป็นเหมือนขั้นบันไดตลอดเวลา จึงทำให้เราเหมือนเดินขึ้นบันไดครับ รวมถึงจุดพักเล็ก ๆ ระหว่างทางก็ต่อสายท่อน้ำมาให้สำหรับนักเดินทางได้ดื่มได้ใช้ด้วยครับวิวระหว่างทาง
Last Day
Conclusion
- ความท้าทาย - 95%95%
- บรรยากาศอุทยาน - 85%85%
- สภาพอากาศ - 75%75%
- ความสะดวก ความพร้อมของอุทยาน - 95%95%
Summary
ทางชันตลอดเวลา ทำให้เราต้องพักระหว่างทางบ่อย ความสะดวกสบายของอุทยานฯ ดีมาก
สรุปทริปเขาหลวงครั้งนี้ เหนื่อยกว่าที่คิดมาก เนื่องจากเป็นทางชันตลอดเวลา ทำให้เราต้องพักระหว่างทางบ่อย ใครจะมาขึ้นเขาหลวงแนะนำให้ออกกำลังกายมาให้ดีเพื่อความพร้อมด้านร่างกาย ว่าแล้วก็แอบนึกย้อนไปช่วงมัธยม ทำไมเราขึ้นแล้วลงได้เลยภายในวันเดียวกันนะ ร่างกายเราคงเสื่อมตามกาลเวลาสินะ = =”
ด้านความพร้อมความสะดวกสบายของอุทยานฯ ที่นี่พร้อมมากก จนผมคิดว่าพร้อมเกินไป อย่างตอนเดินขึ้นจะมีถังน้ำที่ต่อท่อลงมาจากต้นน้ำข้างบน สะอาดสดชื่น ดื่มได้ใช้ล้างหน้าได้ตลอดจุดพักที่เดินขึ้นเขา พอไปถึงจุดกางเต๊นท์ก็เป็นลานที่มีระเบียบเรียบร้อย มีห้องน้ำ มีน้ำใช้ตลอด(แต่ไม่มีน้ำอุ่น เดี๋ยวจะสบายเกิน) มีของขายด้านบนแต่ราคาก็แพงแบบปกติ แม้กระทั่งข้าวกะเพราก็สั่งกินได้ ถ้าเราไม่ได้เอาอาหารไปทำกินเอง
สภาพอากาศ มาช่วงฤดูหนาวก็อาจจะได้วิวทะเลหมอกยากหน่อยแต่จะได้บรรยากาศความหนาวที่ฟินดี ซึ่งจริง ๆ แล้วแอบอยากได้วิวทะเลหมอกมากกว่า เลยเสียดายมาก ครั้งหน้าอาจต้องขึ้นช่วงปลายฤดูฝนมากกว่า ถึงจะได้วิวทะเลหมอกที่สวยงาม
สุดท้าย ด้วยความที่เขาหลวงก็มีหลายยอดให้ลองขึ้น บางทีการนอน 1 คืนอาจไม่พอ หรือไม่อย่างนั้นวันแรกควรขึ้นให้เช้ากว่านี้ #กลุ่มผมขึ้นตอนเที่ยง แล้วพักผ่อนสักแป๊ป จะได้มีเวลาไปขึ้นเขาพระแม่ย่าดูพระอาทิตย์ตกอย่างสบายใจ
จบรีวิวเขาหลวงสุโขทัย ด้วยแสงสุดท้ายของปี 2559
สวัสดีปีใหม่ 2560 ครับ 🙂